แชร์

พัดลมพกพาขึ้นเครื่องได้ไหม?รวมกฎ เคล็ดลับ ผ่านด่านชัวร์

อัพเดทล่าสุด: 30 ธ.ค. 2025

เคยไหมครับ… เดินทางไกลทีไร เจอสนามบินคนแน่นจนเหงื่อซึมยิ่งกว่าตากผ้าแดดกลางเมษา! ช่วงรอเช็คอินนี่แหละ ตัวดีเลย เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ แต่ “ร้อน” แบบอยากจะควักพัดลมพกพามาตีลมใส่หน้าให้เย็นเฉียบสักที



แต่ก็ต้องชะงัก… เอ๊ะ! เอาพัดลมขึ้นเครื่องได้ไหม?
โดยเฉพาะแบบ มีแบตเตอรี่ในตัว นี่แหละ ที่หลายคนกลัวว่าจะโดน ตม. เรียกไปคุยให้หายร้อนกว่าเดิม



วันนี้ผมสรุปแบบครบ จบ เนียน พร้อมข้อมูลจากหลายสายการบินที่นิยมเดินทางกันบ่อย ใครกำลังจะบิน ขอบอกเลยว่าอ่านจบ “คลายร้อนทั้งตัวและใจ” แน่นอนครับ!

 

พัดลม USB / พัดลมแบตฯ ในตัว เอาขึ้นเครื่องได้หรือไม่?


คำตอบสั้นๆ คือ ได้ครับ!
แต่… ต้องดูว่าเป็นแบบไหน

1) พัดลม USB (ไม่มีแบตในตัว)
อันนี้สบายมาก พกขึ้นเครื่องได้ทั้งใน Carry-on และ โหลดใต้เครื่อง เพราะไม่มีแบตลิเธียม จึงไม่ถือว่าเป็นอุปกรณ์เสี่ยง

ใครที่ใช้พัดลม USB แบบเสียบใช้งานกับ Power Bank ก็ยิ้มได้เลย ไม่มีอะไรให้ลุ้น

2) พัดลมแบตฯ ในตัว (Lithium-ion Battery / Li-Po)
อันนี้คือจุดที่หลายคน “หวั่นใจ” เพราะเกี่ยวกับ แบตฯ ลิเธียม ซึ่งทุกสายการบินทั่วโลกเข้มงวดมาก
แต่ข่าวดีคือ ส่วนใหญ่อนุญาตให้พกขึ้นเครื่องได้ ตราบใดที่แบตเตอรี่ ไม่เกิน 100Wh

ซึ่งพัดลมพกพาทั่วไป มักมีแค่ 1,000 – 4,000mAh (ประมาณ 3.7V) รวมแล้วไม่ถึง 20Wh ด้วยซ้ำ!
ดังนั้นปลอดภัยตามกฎสากลแน่นอนครับ

 

กฎสายการบินยอดนิยม — มีอะไรต่างกันบ้าง?


ผมสรุปแบบอ่านง่ายๆ ตามนี้เลยครับ

 

1) Thai Airways (การบินไทย)

  • อุปกรณ์ที่มีแบตฯ ลิเธียม ต้องพกติดตัวบนเครื่องเท่านั้น
  • ห้ามโหลดใต้เครื่องเด็ดขาด
  • ขนาดแบตฯ ต้องไม่เกิน 100Wh


สรุป: พัดลมพกพา “ผ่านฉลุย”

 

2) AirAsia

  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีแบตลิเธียมต้องอยู่ใน Carry-on เท่านั้น
  • หากแบตฯ เกิน 100Wh ต้องให้สายการบินพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ (แต่พัดลมพกพาไม่ถึงแน่นอน)


สรุป: พกขึ้นเครื่องได้ ไม่ยุ่งยาก

 

3) VietJet / Scoot / Lion Air (สายประหยัดยอดนิยม)

  • หลักการเดียวกัน: แบตลิเธียมต้องอยู่ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง
  • ห้ามโหลด
  • ไม่เกิน 100Wh


สรุป: แม้จะเป็นสายการบินราคาประหยัด แต่กฎเรื่องแบตฯ ชัดเจนเหมือนกันทั่วโลก

 

4) Singapore Airlines

  • เข้มงวดกว่าเล็กน้อยตรงการตรวจอุปกรณ์ที่มีแบตฯ เพราะถือมาตรฐานสูง
  • แต่พัดลมพกพาเฉลี่ย 2–4,000mAh ถือว่าน้อยมาก จึงอนุญาต


สรุป: หายห่วง แต่ควรเก็บในกระเป๋าที่หยิบง่ายตอนตรวจ

 

5) Japan Airlines / ANA (สายญี่ปุ่นสุดเป๊ะ)

  • ตรวจละเอียด แต่กฎตรงไปตรงมา
  • ถ้าแบตไม่เกิน 100Wh คือผ่าน
  • ห้ามโหลดใต้เครื่องเหมือนเดิม


สรุป: ผ่านสบาย ขอแค่เก็บดีๆ

 

เช็คลิสต์ก่อนขึ้นเครื่อง — ใช้แล้วรอดทุกราย
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบ “โดนเรียกไปเปิดกระเป๋าต่อหน้าแถวที่รออยู่เป็นสิบๆ คน” ผมสรุปเช็คลิสต์ให้ครับ

1) ถ้าเป็นพัดลมแบตฯ ในตัว

  • ตรวจสเปก: ความจุส่วนใหญ่ไม่เกิน 4,000mAh = ผ่าน
  • ปิดเครื่องก่อนผ่านด่าน
  • ห้ามเปิดใช้งานตอนเครื่องขึ้น/ลง


2) ถ้าเป็นพัดลม USB

  • ไม่มีแบต = ปลอดภัยสุดๆ
  • จะใส่ใน Carry-on หรือโหลดก็ได้
  • แนะนำให้พกสาย USB แยกไว้ เพราะบางด่านจะขอให้ดูอุปกรณ์


3) ห้ามแกะหรือดัดแปลงแบต
อันนี้เขาเช็กจริง ถ้าเห็นว่าเปิดฝา มีสายชุ่ยๆ ยื่นออกมา มีสิทธิ์ถูกห้ามพกทันที

4) พก Power Bank ไปด้วยก็ต้องดูเรื่อง Wh เหมือนกัน
ส่วนมากไม่เกิน 20,000mAh ก็ขึ้นได้ แต่ต้องพกติดตัว ไม่ให้โหลด

 

 

แล้วควรเลือกพัดลมแบบไหน ถ้าต้องเดินทางบ่อย?


1) เดินทางต่างประเทศบ่อย → พัดลม USB


เหตุผล:

  • ไม่ต้องซีเรียสเรื่องแบต
  • ผ่านทุกด่านง่ายที่สุด
  • ใช้กับ Power Bank ได้ตลอดทั้งทริป


2) เดินทางในประเทศ + เน้นสะดวก → พัดลมแบตฯ ในตัว


เหตุผล:

  • พกง่าย ไม่ต้องพึ่ง Power Bank
  • แบตทั่วไปไม่เยอะเกินกฎสายการบิน
  • เหมาะกับการเดินในสนามบินหรือระหว่างต่อรถ


3) ใช้ในสถานที่คนเยอะ เช่น คอนเสิร์ต / งานเทศกาล
แนะนำแบตในตัว เพราะถือคนเดียวก็เย็นได้ทั้งโชว์

 

สรุปแบบคนเดินทางจริง


ไม่ว่าจะเป็น พัดลม USB หรือ พัดลมแบตฯ มีในตัว …
สรุปคือ พกขึ้นเครื่องได้เกือบทุกสายการบิน เพราะพัดลมพกพาใช้แบตไม่สูง และปลอดภัยตามมาตรฐานการบิน

แค่จำกฎง่ายๆ:


ไม่เกิน 100Wh และต้องพกไว้ใน Carry-on

เท่านี้ก็ใช้คลายร้อนตั้งแต่สนามบินยันถึงจุดหมายได้แบบชิลๆ ไม่ต้องลุ้นให้ใจสั่นแล้วครับ!

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy