แชร์

เครื่องดูดไรฝุ่น ดูดแล้วไม่หาย? สาเหตุที่หลายบ้านพลาด โดยไม่รู้ตัว

อัพเดทล่าสุด: 18 ธ.ค. 2025

ดูดทุกสัปดาห์
ที่นอนก็ถอดผ้าปูซักแล้ว
แต่ทำไมยังคัน ยังจาม ยังรู้สึกเหมือน ไรฝุ่นมันไม่ไปไหน?

ถ้าคุณกำลังใช้ เครื่องดูดไรฝุ่น อยู่ แล้วรู้สึกว่า ผลลัพธ์ไม่ต่างจากเครื่องดูดฝุ่นธรรมดา
บทความนี้คือคำตอบครับ

 

ก่อนอื่นปูพื้นนิดเดียว (ต่อจากบทความก่อนหน้า)


จากบทความก่อน ๆ เราได้คุยกันไปแล้วว่า

 

 


ถ้าใครยังไม่ได้อ่าน แนะนำให้ย้อนกลับไปดู
บทความเปรียบเทียบเครื่องดูดไรฝุ่นกับเครื่องดูดฝุ่น
จะช่วยให้เข้าใจว่าปัญหาที่เจออยู่ เกิดจากเครื่อง หรือเกิดจากวิธีใช้

 

ปัญหาจริงที่เจอบ่อย: ดูดแล้วไรฝุ่นยังอยู่


ความจริงที่หลายคนไม่รู้คือ
เครื่องดูดไรฝุ่น ต่อให้ดีแค่ไหน ถ้าใช้ผิด = ไม่ต่างจากดูดฝุ่นธรรมดา

และนี่คือ จุดพลาด ที่เจอกันบ่อยมาก

 

1.ใช้เครื่องดูดไรฝุ่น แต่ไม่มีแรงตบ (หรือแรงไม่พอ)


ไรฝุ่น ไม่ได้ลอยอยู่บนผิวที่นอน
มันฝังลึกอยู่ในใยผ้า หมอน ฟูก โซฟา

ถ้าเครื่อง:

 

  • ดูดอย่างเดียว
  • ไม่มีระบบตบ / สั่น
  • หรือแรงตบเบาเกินไป

 


สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
ดูดเอาฝุ่นผิวหน้าออก แต่ ไรฝุ่นตัวจริงยังอยู่ลึกเหมือนเดิม

นี่คือเหตุผลว่าทำไมบางบ้านเปลี่ยนมาใช้เครื่องดูดไรฝุ่นแล้ว
แต่ยังคัน ยังแพ้เหมือนเดิม

 

 2.ส้กรองไม่ใช่ HEPA หรือเสื่อมแล้ว


ข้อนี้ พลาดกันเยอะมาก

เครื่องดูดไรฝุ่นต้องมี:

  • HEPA Filter จริง
  • และต้องอยู่ในสภาพที่ยังใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

ถ้า:

 

  • ไส้กรองอุดตัน
  • ไม่เคยเปลี่ยนตามรอบ
  • หรือเป็นแค่ฟิลเตอร์ธรรมดา

ผลลัพธ์คือ
ดูดเข้าไปแต่เป่าฝุ่นละเอียดกลับออกมาในอากาศอีกครั้ง

 

บางบ้านแพ้หนักกว่าเดิม ทั้งที่ เพิ่งดูดเสร็จ
ไม่ใช่เพราะไรฝุ่นเพิ่ม แต่เพราะฝุ่น PM2.5 ลอยเต็มห้อง

 

 

3. ดูดเร็วเกินไป (ข้อนี้คนไม่ค่อยรู้)


การใช้ เครื่องดูดไรฝุ่น
ไม่เหมือนการถูพื้น หรือดูดฝุ่นห้อง

ลากเร็ว = ไรฝุ่นไม่ทันหลุด
ต้องลากช้า ๆ ซ้ำจุดเดิม 23 รอบ

โดยเฉพาะ:

  • ที่นอน
  • หมอน
  • โซฟาผ้า
  • เบาะรถยนต์


ถ้าดูดแบบ ปาดเดียวจบ
ต่อให้เครื่องแรงแค่ไหน ก็ไม่ทันทำงานครับ

 

4. ใช้ผิดบริเวณ (เครื่องดูดไรฝุ่น ดูดทั้งบ้าน)


หลายคนเข้าใจผิดว่า
เครื่องดูดไรฝุ่น ใช้แทนเครื่องดูดฝุ่นได้ทุกอย่าง

จริง ๆ แล้วไม่ใช่

เครื่องดูดไรฝุ่นเหมาะกับ:

  • ที่นอน
  • หมอน
  • โซฟา
  • ผ้าม่าน
  • เบาะผ้า


แต่ ไม่เหมาะ กับ:

 

  • พื้นแข็งทั้งบ้าน
  • พรมหนาแบบพื้นที่กว้าง


ถ้าใช้ผิดประเภท
จะรู้สึกว่าเครื่อง ไม่เก่ง ทั้งที่จริง ๆ แค่ใช้ผิดงาน

 

 

แล้วต้องแก้ยังไง? (สรุปสั้น ๆ ใช้ได้จริง)
ถ้าคุณใช้เครื่องดูดไรฝุ่นอยู่แล้ว ลองเช็กตามนี้:

  • เครื่องมีแรงตบจริงไหม
  • ใช้ HEPA Filter หรือเปล่า และเปลี่ยนตามรอบหรือยัง
  • ลากช้า ดูดซ้ำ ไม่รีบ
  • ใช้กับพื้นผิวที่เหมาะกับ ไรฝุ่น จริง ๆ


แค่ปรับ 4 ข้อนี้
ผลลัพธ์ต่างจากเดิมชัดเจนมาก

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy