แชร์

ซักที่นอนยังไงให้สะอาดเหมือนใหม่?

อัพเดทล่าสุด: 7 พ.ค. 2025
16 ผู้เข้าชม

"ที่นอนผืนเบ้อเร่อ แถมหนาอีก! จะซักยังไงให้สะอาดหมดจดได้ล่ะเนี่ย?" เชื่อว่านี่คือคำถามในใจของใครหลายๆ คนใช่ไหมครับ? ยิ่งถ้าที่บ้านมีเด็กเล็ก หรือใครเป็น โรคภูมิแพ้ ยิ่งต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดของที่นอนเป็นพิเศษ เพราะที่นอนที่เรานอนทับกันทุกคืนนี่แหละ คือ "แหล่งรวมเชื้อโรค" ชั้นดี ทั้งไรฝุ่น, คราบเหงื่อไคล, เซลล์ผิวที่ตายแล้ว, ไหนจะคราบเปื้อนจากอุบัติเหตุต่างๆ อีก!

หลายคนอาจจะคิดว่าแค่ดูดฝุ่น หรือเปลี่ยนผ้าปูบ่อยๆ ก็พอแล้ว แต่จริงๆ มันอาจจะยังไม่สะอาดลึกถึงข้างใน! วันนี้ iSuper ในฐานะ เพื่อนซี้เรื่องบ้านสะอาด จะมาแชร์เคล็ดลับ "ทำความสะอาด" ที่นอนแบบสเต็ปบายสเต็ป ให้สะอาดเหมือนใหม่ ปลอดภัยต่อสุขภาพ พร้อมแนะนำ "ไอเทมเด็ด" จาก iSuper ที่จะทำให้งานนี้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ!

ทำไมที่นอนถึงเป็น "แหล่งสะสม" เชื้อโรค? (รู้แล้วจะอึ้ง!)

ง่ายๆ เลยครับ ที่นอนเรามันนุ่มๆ อุ่นๆ แถมมี "อาหาร" ให้เชื้อโรคเพียบ!

ไรฝุ่น: ตัวจิ๋วๆ ที่ชอบกินเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วของเรา มูลของมันนี่แหละตัวการหลักทำภูมิแพ้กำเริบ!
เหงื่อไคล: สะสมทุกคืน กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย
ความชื้น: ยิ่งถ้าห้องอับชื้น เชื้อราก็ถามหา
คราบต่างๆ: น้ำหก, อาหาร, ฉี่เด็ก (สำหรับบ้านที่มีน้องๆ)
(รู้แบบนี้แล้ว ยิ่งต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เลยใช่ไหมครับ? โดยเฉพาะคนเป็นภูมิแพ้ แนะนำ 1-2 เดือนครั้งเลยนะ!)

สเต็ป "คืนชีพ" ที่นอน ให้สะอาดเหมือนใหม่ (พร้อมไอเทมเด็ดจาก iSuper!)

Step 1: เปิดศึก! "ดูด" ฝุ่นและไรฝุ่นตัวร้าย

ทำไมต้องดูดก่อน?: ถ้าเราไปเช็ดหรือซักแบบเปียกๆ เลย ฝุ่นผงกับไรฝุ่นมันจะจับตัวเป็นก้อน แล้วซึมลึกลงไปในที่นอนอีก! กลายเป็นว่ายิ่งสกปรกกว่าเดิม!


เครื่องมือเทพแนะนำ #1: iSuper Anti Mites Vacuum Cleaner H1 Max


ดียังไง?: ตัวนี้แหละ "ตัวจริงเรื่องไรฝุ่น!" มันไม่ได้แค่ดูดธรรมดา แต่มีระบบ "ตบฝุ่น" ความเร็วสูงถึง 36,000 ครั้ง/นาที! ให้ไรฝุ่นและไข่ของมันที่เกาะแน่นๆ หลุดออกมา แล้วก็มี คลื่น Ultrasonic ช่วยยับยั้งการเติบโตของไรฝุ่นอีกด้วย
ไม้เด็ดคือ "แสง UV": แสง UV นี่แหละครับที่ช่วย ฆ่าเชื้อโรคและ "ไข่ไรฝุ่น" ได้ล้ำลึก ทำให้ไรฝุ่นไม่กลับมาเกิดใหม่เร็ว (ทดสอบแล้วว่ากำจัดไรฝุ่นได้ถึง 99.9%!)
แถมอีก!: มีแปรงปัดฝุ่นทรงตัว V ช่วยปัดฝุ่นบนผ้า และ ระบบเป่าลมร้อน ไล่ความชื้น ป้องกันไรฝุ่นได้อีกชั้น!


(ทางเลือก) เครื่องมือเทพแนะนำ #2: iSuper Vacuum Cleaner (เครื่องดูดฝุ่นอเนกประสงค์ ดูดถูในตัว)


ดียังไง?: ถ้ายังไม่มีเครื่องดูดไรฝุ่นโดยตรง เจ้าตัวนี้ก็เอาอยู่เรื่องฝุ่นผงทั่วไปครับ แรงดูดทรงพลัง 17000Pa ดูดได้ทั้งฝุ่นเล็กฝุ่นใหญ่ แถม ถูพื้นได้ด้วย! อุปกรณ์เสริมให้มาตั้ง 17 ชิ้น คุ้มสุดๆ สายไฟยาว 5 เมตร ลากสบาย น้ำหนักเบา ผู้หญิงก็ใช้สะดวก (ทั้งหมดนี้แค่ 1299 บาทเองนะ! )
เคล็ดลับ เอาแปรงสีฟันเก่าๆ (ที่สะอาด) มาปัดๆ ฝุ่นตามซอกตะเข็บที่นอนก่อน แล้วค่อยใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดตามอีกที เกลี้ยง!

Step 2: จัดการ "คราบเฉพาะจุด" (รอยเปื้อนต่างๆ ที่มองเห็น)

คราบแต่ละแบบก็มีวิธีจัดการต่างกันนิดหน่อยครับ:

คราบเหนียวๆ (เช่น คราบอาหาร น้ำหวาน):
ใช้ สบู่เหลวอ่อนๆ หรือน้ำยาล้างจาน ผสมน้ำอุ่น (ประมาณ 40 องศา กำลังดี ไม่ร้อนไป)
ใช้ กระดาษทิชชูหนาๆ หรือผ้าสะอาด ชุบน้ำยาหมาดๆ แล้ว ค่อยๆ "ซับ" หรือ "กด" ที่คราบ อย่าถูแรงๆ เดี๋ยวคราบกระจาย
คราบอื่นๆ ทั่วไป:
ลองใช้ สเปรย์โฟมสำหรับทำความสะอาดพรม/โซฟา (หาซื้อง่าย) ฉีดลงบนคราบ
ใช้ แปรงสีฟันเก่า หรือแปรงขนนุ่มๆ ขัดเบาๆ วนๆ
ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เช็ดโฟมและคราบสกปรกออก
ข้อสังเกตจากคนเคยทำ "วิธีนี้ช่วยให้คราบจางลงได้เยอะ หรือคราบใหม่ๆ อาจจะหายไปเลย แต่ถ้าเป็นคราบฝังลึก หรือซึมลงไปเยอะแล้ว มันอาจจะยังเห็นรอยจางๆ หรือพอแห้งแล้วคราบก็ผุดขึ้นมาใหม่ได้นะ เพราะข้างในมันยังไม่เกลี้ยงจริง!" (นี่แหละที่ทำให้เราต้องไป Step 3!)

Step 3: "ซักลึก" ถึงชั้นใน! ด้วยเครื่องทำความสะอาดโซฟา/พรม

ถ้าอยากให้ที่นอนสะอาดแบบ "ถึงไส้" จริงๆ ดูดฝุ่นกับเช็ดคราบอย่างเดียวอาจไม่พอครับ ต้องมีตัวช่วยที่ทำความสะอาดได้ล้ำลึกกว่านั้น!

ทำไมต้องซักลึก?: เพราะที่นอนมันหนา เวลาน้ำหรือของเหลวหกใส่ มันซึมลงไปข้างในได้ สิ่งสกปรก คราบสะสมต่างๆ ก็อยู่ข้างในนั้น พอเราเช็ดแค่ผิวๆ ข้างในมันก็ยังอยู่ พอแห้งคราบก็กลับมาอีก


เครื่องมือเทพแนะนำ #3: iSuper Sofa & Carpet Rinsing Cleaner R1


ดียังไง?: ตัวนี้แหละ "พระเอกตัวจริงเรื่องซักลึก!"  มันทำงานคล้ายๆ เครื่องซักพรมของมืออาชีพเลยครับ คือ:
ฉีดน้ำยา/น้ำสะอาด ลงไปบนพื้นผิวที่นอน/โซฟา/พรม
(บางรุ่นมีหัวแปรงช่วยขัด) หรือเราใช้แปรงขัดเองเบาๆ
แล้วเครื่องจะ "ดูด" น้ำสกปรกพร้อมคราบต่างๆ กลับขึ้นมา เก็บในถังน้ำทิ้ง
เจ้า iSuper R1 เนี่ย มอเตอร์แรง 650W สร้างพลังดูดได้ถึง 14000Pa! ทำความสะอาดได้ ลึกถึง 8 เซนติเมตร! ฉีดน้ำยาแล้วดูดกลับ ทำให้ แห้งไวกว่า ทิ้งความชื้นไว้น้อยมาก
ถังน้ำสะอาดกับถังน้ำทิ้งก็ใหญ่ ไม่ต้องเติม/เทบ่อยๆ เสียงก็ไม่ดังมาก ไม่รบกวนคนในบ้านหรือสัตว์เลี้ยง ตัวเครื่องกะทัดรัด เก็บง่าย
อเนกประสงค์สุดๆ! ไม่ใช่แค่ที่นอน แต่ใช้กับ โซฟา, พรม, หมอน, ผ้าห่ม, ท็อปเปอร์, เบาะรถยนต์ ได้หมด!
วิธีใช้ร่วมกับสเปรย์โฟม: ฉีดสเปรย์โฟมทำความสะอาดพรมลงบนคราบก่อน > ใช้แปรงสีฟันขัดเบาๆ > จากนั้นใช้เครื่อง iSuper R1 ฉีดน้ำสะอาด (หรือน้ำยาอ่อนๆ) แล้วดูดสิ่งสกปรกออกให้หมด -> "สะอาดหมดจดเหมือนจ้างมืออาชีพมาทำให้เลย!"
สรุป: ลงทุนเพื่อ "ที่นอนสะอาด" และ "สุขภาพดี" คุ้มกว่าที่คิด!

การทำความสะอาดที่นอนให้สะอาดจริงจัง อาจจะดูเป็นเรื่องใหญ่ใช่ไหมครับ? แต่ถ้าเรามีเครื่องมือดีๆ อย่าง เครื่องดูดไรฝุ่น iSuper H1 Max ที่ช่วยกำจัดต้นตอภูมิแพ้ และ เครื่องทำความสะอาดโซฟา/พรม iSuper R1 ที่ช่วย "ซักลึก" ขจัดคราบฝังแน่น งานยากๆ ก็กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะเลยครับ

การดูแลที่นอนให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ใช่แค่เรื่องความสบายตอนนอน แต่ยังส่งผลดีต่อ สุขภาพ ของเราและคนที่เรารักในระยะยาวด้วย โดยเฉพาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ หรือบ้านที่มีเด็กเล็ก การลงทุนกับอุปกรณ์ทำความสะอาดดีๆ จาก iSuper ถือว่าคุ้มค่าที่สุดครับ ไม่ต้องเสียเงินจ้างคนมาทำความสะอาดบ่อยๆ แถมยังมั่นใจได้ว่าที่นอนของเราสะอาด ปลอดภัยจริงๆ

(ยิ่งถ้าเป็นโรงแรมหรือเกสต์เฮาส์ การมีเครื่องพวกนี้ติดไว้ ยิ่งจำเป็นมากเลยนะครับ! ช่วยยกระดับความสะอาดและความประทับใจให้ลูกค้าได้เยอะเลย)


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy