แชร์

แนะนำวิธีการเลือกซื้อหูฟังบลูทูธไอโฟนที่ควรดู

อัพเดทล่าสุด: 3 พ.ค. 2025
11 ผู้เข้าชม

AirPods ก็ดีนะ...แต่ราคาสูงจัง" "อยากได้หูฟังไร้สายที่เบสหนักกว่านี้" "อยากได้สีอื่น/ดีไซน์อื่นบ้าง!" เชื่อว่าชาว iPhone หลายคนเคยมีความคิดแบบนี้แวบเข้ามาในหัว  แต่ก็แอบกังวลว่า เอ...ถ้าเราไปซื้อหูฟังบลูทูธยี่ห้ออื่นมาใช้กับ iPhone สุดรักของเราเนี่ย เสียงมันจะดีไหม? ต่อติดง่ายหรือเปล่า? จะมีปัญหาอะไรไหมนะ?

ไม่ต้องกังวลไปครับ! ในฐานะ คนที่คลุกคลีกับทั้ง iPhone และหูฟังสารพัดยี่ห้อ  ขอบอกเลยว่า คุณสามารถใช้หูฟังบลูทูธยี่ห้ออื่นกับ iPhone ได้สบายมาก และได้เสียงดีด้วย! เพียงแต่ต้อง "เลือกให้เป็น" เท่านั้นเอง บทความนี้จะมาแนะเคล็ดลับง่ายๆ แบบเพื่อนคุยกัน ให้คุณเลือกหูฟังคู่ใจ (ที่ไม่ใช่ของ Apple) ได้อย่าง มั่นใจ ไม่ต้องเสียใจทีหลังแน่นอน

แนะนำวิธีการเลือกซื้อหูฟังไอโฟนที่ควรดู

  1. "หัวใจหลัก" ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด: หูฟังต้องรองรับ "AAC Codec"! AAC คืออะไร? (จำง่ายๆ): มันคือ "ภาษาเสียงคุณภาพสูง" ที่อุปกรณ์ Apple (iPhone, iPad, Mac) ใช้คุยกับหูฟังบลูทูธเพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุด
  • ทำไมต้อง AAC?:
  • ถ้าหูฟังรองรับ AAC: เวลาต่อกับ iPhone เสียงที่ได้จะ ใส เคลียร์ รายละเอียดดี ใกล้เคียงกับการฟังจากสายเลยทีเดียว
    ️ ถ้าหูฟังรองรับแค่ SBC (Codec พื้นฐาน): เสียงก็จะดรอปลง ความคมชัด รายละเอียดหายไปพอสมควร (เหมือนฟัง MP3 คุณภาพต่ำ)
    ถ้าหูฟังมี aptX, aptX HD, LDAC (ที่ฮิตใน Android): iPhone ไม่รู้จักภาษาเหล่านี้ครับ! ถึงหูฟังจะมี ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์เมื่อต่อกับ iPhone สุดท้ายมันก็จะคุยกันด้วยภาษา SBC พื้นฐานอยู่ดี (สำคัญมาก! อย่าโดนหลอกตรงนี้)

เช็คยังไง?:

  • ดูในสเปกสินค้า: หาคำว่า "Supported Codecs" หรือ "Audio Codecs" แล้วมองหาคำว่า "AAC"
    อ่านรีวิว: หาข้อมูลรีวิวที่ทดสอบกับ iPhone โดยตรง หรือถามผู้ขายให้แน่ใจ
    (แบรนด์ดีๆ ส่วนใหญ่รองรับ AAC อยู่แล้ว แต่เช็คเพื่อความชัวร์ดีที่สุด!)

2. คุณภาพเสียงโดยรวม & ฟีเจอร์เสริม

เมื่อมั่นใจว่ามี AAC แล้ว ค่อยมาดูเรื่องอื่นๆ ที่ชอบ:

แนวเสียงที่ใช่: นอกจาก Codec แล้ว คุณภาพไดรเวอร์ การจูนเสียงของแต่ละยี่ห้อก็ให้เสียงไม่เหมือนกัน (บางยี่ห้อเน้นเบส บางยี่ห้อเน้นใส) อันนี้ต้อง ลองฟังเอง หรือดูรีวิว ประกอบเยอะๆ ครับ
ตัดเสียงรบกวน (ANC - Active Noise Cancellation): ถ้าคุณเดินทางบ่อย ทำงานในที่เสียงดัง หรือแค่อยากมีโลกส่วนตัว ฟีเจอร์นี้ช่วยได้เยอะมาก! ซึ่ง หูฟังยี่ห้ออื่น  บางรุ่น ทำ ANC ได้ดีกว่า AirPods Pro เสียอีก!
โหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency/Ambient Mode): สะดวกมากเวลาต้องการฟังเสียงรอบตัว เช่น ตอนซื้อของ หรือคุยกับคนอื่นแป๊บๆ โดยไม่ต้องถอดหูฟัง

3. สัญญาณต้องนิ่ง!

มองหา Bluetooth 5.0 ขึ้นไป: เดี๋ยวนี้เป็นมาตรฐานแล้วครับ ช่วยให้สัญญาณ เสถียรขึ้น ประหยัดแบตฯ ขึ้น และเชื่อมต่อ (Pairing) ตอนแรกได้ง่ายขึ้น
ความง่ายในการ Pair: ส่วนใหญ่หูฟังรุ่นใหม่ๆ แค่เปิดฝาเคส หรือกดปุ่มค้าง ก็พร้อมให้ iPhone ค้นหาเจอได้ไม่ยาก

4. แบตเตอรี่อึดแค่ไหน? (ดูทั้งหูฟังและเคส!)

ตัวหูฟัง: ควรใช้งานต่อเนื่องได้ อย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง กำลังดี
เคสชาร์จ: ควรชาร์จหูฟังซ้ำได้อีกกี่รอบ? รวมๆ แล้วควรใช้งานได้ 20 ชั่วโมงขึ้นไป จะได้ไม่ต้องชาร์จเคสบ่อยๆ
ชาร์จไร้สาย (Wireless Charging): ถ้าคุณมีแท่นชาร์จไร้สายอยู่แล้ว การเลือกเคสที่รองรับชาร์จไร้สายด้วยก็จะสะดวกขึ้นไปอีก

5. ควบคุมง่ายไหม? มีแอปฯ ให้ปรับแต่งหรือเปล่า?

การควบคุม: เป็นแบบสัมผัส หรือปุ่มกด (Button)? ใช้งานง่าย ถนัดมือไหม? ควบคุมอะไรได้บ้าง (เล่น/หยุด, เปลี่ยนเพลง, รับสาย, เรียก Siri)?
แอปพลิเคชันเสริม: หูฟังแบรนด์ดีๆ มักจะมีแอปฯ ของตัวเองให้โหลด เพื่อ ปรับแต่งเสียง (EQ), ตั้งค่าการควบคุม, อัปเดตเฟิร์มแวร์ (สำคัญ!), หรือเปิด/ปิดฟีเจอร์ต่างๆ ได้

6. ใส่สบาย? กันน้ำกันเหงื่อ?

ความสบาย: อันนี้ "หูใครหูมัน" จริงๆ ครับ ต้องดูดีไซน์ น้ำหนัก และที่สำคัญคือ "จุกหูฟัง" สำหรับรุ่น In-Ear ควรมีหลายขนาดให้เลือกเปลี่ยนเพื่อให้พอดีกับรูหูเราที่สุด (ใส่ไม่พอดี เสียงก็ไม่ดี แถมหลุดง่ายอีก)
กันน้ำ/เหงื่อ (IP Rating): ถ้าคุณ ใส่ออกกำลังกาย หรือเจอฝนบ้าง ต้องดู! อย่างน้อยควรได้ IPX4 (กันเหงื่อ ละอองน้ำ) ถ้าสูงกว่านี้ (IPX5, IPX7) ก็ยิ่งดี

7. ฟีเจอร์ "เทพ" ของ Apple ที่อาจต้องยอม "แลก"

ต้องยอมรับความจริงข้อนี้ครับ การใช้หูฟังยี่ห้ออื่น แม้จะเสียงดี ฟีเจอร์ครบแค่ไหน คุณ "อาจจะ" พลาด ประสบการณ์บางอย่างที่ Apple ทำไว้ดีมากๆ ใน Ecosystem ของตัวเองไป เช่น:

การเชื่อมต่อ/สลับอุปกรณ์ที่ "โคตรเนียน": การสลับเสียงอัตโนมัติระหว่าง iPhone, iPad, Mac แบบแทบจะไร้รอยต่อของ AirPods/Beats (ที่มีชิป H1/H2) ยังไม่มีใครทำได้เทียบเท่า
Pop-up การเชื่อมต่อสวยๆ: ตอนเปิดฝาเคสใกล้ๆ iPhone
Spatial Audio พร้อม Head Tracking: ระบบเสียงรอบทิศทางที่สมจริงและหันตามศีรษะเรา (หูฟังยี่ห้ออื่นบางรุ่นเริ่มมีคล้ายๆ กัน แต่ยังไม่แพร่หลายและอาจไม่สมบูรณ์เท่า
การตามหาผ่าน Find My: อาจจะตามหาได้แค่ตำแหน่งสุดท้ายที่เชื่อมต่อ ไม่ละเอียดเท่า AirPods ที่ใช้เครือข่าย Find My Network

คุณต้องชั่งใจดูว่า: คุณยอม "แลก" ความเนียนของ Ecosystem เหล่านี้ กับ ราคาที่อาจถูกลง, ดีไซน์ที่ชอบมากกว่า, คุณภาพเสียงเฉพาะทาง, หรือ ANC ที่อาจจะเทพกว่า ของหูฟังยี่ห้ออื่นหรือไม่?

วันนี้เราจะมาแนะนำหูฟังของทาง ISUPER ที่เข้ากัน

ได้กับ iphone ที่น่าสนใจมาแนะนำ

1. iSUPER SOUND PRO Max

เป็นหูฟังที่รองรับระบบ AAC เสียงที่ได้จะ ใส เคลียร์ รายละเอียดดี ใกล้เคียงกับการฟังจากสายเลยทีเดียว สมบูรณ์ทุกย่านเสียง ปรับจูนโดยผู้เชี่ยวชาญให้โทนเสียงตามสไตล์คนไทย ให้โทนเสียงเบสที่หนักแน่น เสียงกลางคมชัด และรายละเอียดที่ครบถ้วน หูฟังเป็นแบบ in-ear ที่สามารถรับเสียงได้เต็มที่เหมาะสำหรับคนรักเสียงเพลงแต่อาจจะใส่ไม่สบายเท่าหูฟัง earbuds แต่ก็แลกมาด้วยเสียงที่ดี ขับคุณภาพเสียง ด้วย Dynamic Driver ขนาด 12 มิลลิเมตร ด่ำดิ่งความเงียบไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน Adaptive ANC ลดเสียงรบกวนได้มากสุดถึง -46dB มอบความเงียบที่มากกว่า

 

 

สามารถปรับระดับการตัดเสียง ด้วย Ai ตามสถานการณ์ที่พบเจอ ช่วยให้การฟังเพลง และการดูคอนเทนต์ต่างๆ มีอรรถรสมากยิ่งขึ้น 360° Stereo Sound เปิดประสบการณ์ด้านทิศทางของเสียงที่มากกว่า ช่วยเพิ่มเวทีเสียง และการรับรู้ทิศทางให้กับการใช้งาน สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชัน คมชัดทุกการสนทนา ด้วยไมโครโฟน 6 ตัว + ENC ตัดเสียงรบกวน หูฟัง 1 ข้าง มาพร้อมไมโครโฟนถึง 3 ตัว ที่ทำหน้าที่ต่างกันออกไป Main Mic ไมโครโฟนรับเสียงพูดของผู้ใช้งาน Feedforward Mic ไมโครโฟนรับเสียงจากภายนอก Feedback Mice ไมโครโฟนลดเสียงสะท้อน

การใช้งานรวมได้นานสุดถึง 34 ชั่วโมง ด้วยความจุแบตเตอรี่ 350mAh หูฟัง 1 ข้างสามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้นานสุดถึง 8.5 ชั่วโมง เบา สบายทุกการสวมใส่ ด้วยการออกแบบที่พอดีกับรูปทรงหูมากที่สุด สวมใส่สบาย พอดีกับใบหูมากขึ้น พร้อมน้ำหนักที่เบาเพียง 4 กรัม รองรับการเชื่อมต่อแบบ Multipoint จับคู่การใช้งานพร้อมกัน 2 อุปกรณ์ รวดเร็ว และเสถียรกว่า ด้วย Bluetooth 5.3 ที่มาพร้อม Game Mode Game Mode สามารถลดดีเลย์ลงไปได้ต่ำสุดถึงระดับ 80Ms ทั้งหมดนี้ในราคา 1199 เท่านั้นพร้อประกัน 1 ปี

2.iSuper SOUND PRO Air

ถ้าบางคนยังชินกับ AirPods ตัวนี้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะเป็น EARBUDS แบบ AirPods เลยนะครับ หูฟังสมบูรณ์ทุกย่านเสียง ปรับจูนโดยผู้เชี่ยวชาญให้โทนเสียงตามสไตล์คนไทย ให้โทนเสียงเบสที่หนักแน่น เสียงกลางคมชัด และรายละเอียดที่ครบถ้วน ขับคุณภาพเสียง ด้วย Dynamic Driver ขนาด 13 มิลลิเมตร ด่ำดิ่งความเงียบไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน Adaptive ANC สามารถปรับระดับการตัดเสียง ด้วย Ai ตามสถานการณ์ที่พบเจอ ช่วยให้การฟังเพลง และการดูคอนเทนต์ต่างๆ มีอรรถรสมากยิ่งขึ้น คมชัดทุกการสนทนา ด้วยไมโครโฟน 6 ตัว + ENC ตัดเสียงรบกวน

 

 

หูฟัง 1 ข้าง มาพร้อมไมโครโฟนถึง 3 ตัว ที่ทำหน้าที่ต่างกันออกไป Main Mic ไมโครโฟนรับเสียงพูดของผู้ใช้งาน Feedforward Mic ไมโครโฟนรับเสียงจากภายนอก Feedback Mice ไมโครโฟนลดเสียงสะท้อน ที่สุดของคุณภาพเสียง ที่มาพร้อมกับการปรับเสียงด้วย Ai Algorithm ช่วยให้เสียงฟังสนุก และปรับแต่งเสียงให้สมบูรณ์มากที่สุดเมื่อใช้งาน อิสระในการปรับแต่ง ด้วยการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน iSUPER Play เทคโนโลยีตัดเสียงลม Adaptive Wind Noise Cancellation ช่วยให้การฟังเพลง และการโทรไม่ถูกรบกวนจากเสียงลม สวมใส่สบาย พอดีกับใบหูมากขึ้น พร้อมน้ำหนักที่เบาเพียง 4 กรัม การใช้งานรวมได้นานสุดถึง 28 ชั่วโมง ด้วยความจุแบตเตอรี่ 350mAh หูฟัง 1 ข้างสามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้นานสุดถึง 5 ชั่วโมง รองรับการเชื่อมต่อแบบ Multipoint จับคู่การใช้งานพร้อมกัน 2 อุปกรณ์ รวดเร็ว และเสถียรกว่า ด้วย Bluetooth 5.3 ที่มาพร้อม Game Mode สามารถลดดีเลย์ลงไปได้ต่ำสุดถึงระดับ 80Ms

3.iSUPER Evo Buds ANC Pro

ตัวสุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำมาพร้อม ANC (Active Noise Cancelling) ตัดเสียงรบกวนได้มากถึง 45dB ลดเสียงรบกวนจากภายนอก เมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรอบข้างเยอะ มีระบบTransparency Mode เปิดเพื่อรับเสียงรอบข้างเข้ามา ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน และช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาฟังเพลง ไมโครโฟน 6 ตัว พร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนเมื่อสนทนา ENC ช่วยให้สนทนาได้ชัดเจนมากขึ้น แม้ในสถานการณ์ที่มีเสียงรบกวนเยอะ อัพเกรดใหม่ เพื่อประสิทธิภาพการเชื่อมต่อที่มากกว่า ด้วย Bluetooth 5.4 การเชื่อมต่อเสถียรมากยิ่งขึ้น และลดปัญหาสัญญาณขาดเมื่อใช้งาน

 

 

แม่นยำทุกจังหวะ สนุกทุกการเล่นเกม ด้วย Game Mode ที่ดีเลย์เพียง 78ms Multi-Point Connection รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันถึง 2 อุปกรณ์ สลับการใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องเชื่อมต่อหูฟังใหม่เมื่อต้องการใช้งาน สะดวกกว่า ด้วย Smart Wearing Detect ระบบตรวจจับการสวมใส่ สามารถหยุดเพลงเมื่อถอด และเล่นเพลงเมื่อสวมใส่อีกครั้ง หนักแน่น ฟังสนุกทุกย่าน ด้วย Dynamic Driver ขนาด 13 มิลลิเมตร ให้เสียงเบสที่ทรงพลัง และรายละเอียด รวมถึงเนื้อเสียงที่มาอย่างครบถ้วน เต็มอิ่มกับการใช้งานได้ยาวนาน ด้วยแบตเตอรี่ที่อึดสุดถึง 36 ชั่วโมง หูฟังสามารถใช้งานได้นานสุดถึง 5.5 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อิสระในการปรับแต่งที่มากกว่า ด้วยการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน iSUPER PLAY ในราคา 999 บาทเท่านั้น พร้อมประกัน 1 ปี


บทสรุป: เลือกเป็น...ใช้ iPhone กับหูฟังยี่ห้อไหนก็แฮปปี้!

การใช้ iPhone ไม่ได้แปลว่าคุณต้องใช้แต่ AirPods เสมอไปครับ! หูฟังบลูทูธดีๆ จากแบรนด์อื่นมีให้เลือกมากมาย เพียงแค่คุณ "เลือกให้เป็น" โดยให้ความสำคัญกับ:

การรองรับ AAC Codec (สำคัญที่สุด!)
คุณภาพเสียงและฟีเจอร์ที่ต้องการ (ANC, แบตฯ, กันน้ำ ฯลฯ)
ความสบายในการสวมใส่
ยอมรับข้อแลกเปลี่ยนเรื่อง Ecosystem ได้


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy