คลิปกล้องติดรถยนต์ ใช้โต้แย้ง "ใบสั่ง" ได้จริงเหรอ?
"อ้าว! ผม/หนูไม่ได้ฝ่าไฟแดงนะครับพี่!" "คันนั้นต่างหากที่ปาดเข้ามา!" เชื่อว่านี่คือสถานการณ์สุดอึดอัดที่คนใช้รถใช้ถนนหลายคนเคยเจอ การได้รับใบสั่งในข้อหาที่เรามั่นใจว่า "เราไม่ได้ทำผิด" มันทั้งน่าหงุดหงิดและเสียความรู้สึก แล้วคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของคนมีกล้องติดรถยนต์ก็คือ...
"แล้วไอ้คลิปที่อัดไว้เนี่ย...มันใช้เถียงได้ไหม!? มันใช้เป็นหลักฐานได้จริงเหรอ?"
ในฐานะ คนที่ใช้รถทุกวันและศึกษาเรื่องพวกนี้มาพอตัว และอยากให้เพื่อนๆ รู้สิทธิของตัวเอง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนี้แบบเคลียร์ๆ ชัดๆ สไตล์เพื่อนคุยกันเลยว่า "คลิปจากกล้องติดรถยนต์" มีน้ำหนักทางกฎหมายแค่ไหน? ใช้โต้แย้งใบสั่งได้จริงหรือไม่? แล้วต้องทำยังไงถึงจะเวิร์ค? ไปดูกันเลยครับ!
คำตอบสั้นๆ (สำหรับคนใจร้อน!): "ใช้ได้...แต่ไม่ใช่ว่าจะ 'ชนะ' เสมอไปนะ!"
ข่าวดีคือ โดยทั่วไปแล้ว "ภาพหรือวิดีโอจากกล้องติดรถยนต์" สามารถนำไปใช้เป็น "พยานหลักฐาน" เพื่อโต้แย้งข้อกล่าวหาได้ครับ! ตำรวจและศาลยอมรับพิจารณาหลักฐานประเภทนี้
แต่! (มีแต่ตัวโตๆ เลยนะ) การที่เจ้าหน้าที่จะ "เชื่อ" หรือ "ยกเลิกใบสั่ง" ให้เรานั้น มันขึ้นอยู่กับ "คุณภาพ" และ "ความชัดเจน" ของหลักฐานของเราเป็นสำคัญ ไม่ใช่ว่าแค่มีคลิปแล้วจะรอดทุกข้อหานะครับ
"หลักฐานจะเทพ" หรือ "จะเท" ขึ้นอยู่กับอะไร?
คลิปของคุณจะมีน้ำหนักมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัจกัยเหล่านี้เลย:
1.ความชัดเจนของภาพ:
ภาพต้องชัดพอ ที่จะเห็นเหตุการณ์สำคัญได้แบบ "ไม่มีข้อโต้แย้ง" เช่น เห็น สีของสัญญาณไฟจราจรชัดเจน, เห็น เส้นจราจรบนถนน, หรือเห็น ป้ายทะเบียนรถของคู่กรณี (ในกรณีอุบัติเหตุ)
: นี่แหละเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรลงทุนกับกล้องที่ ความละเอียดสูง (2K/4K) และมี Night Vision ดีๆ เพราะถ้าภาพเบลอจนดูไม่รู้เรื่อง หลักฐานก็อ่อนลงทันที!
2.ความสมบูรณ์ของคลิป:
คลิปที่บันทึกเหตุการณ์ได้ ตั้งแต่ต้นจนจบ หรือเห็นภาพรวมทั้งหมด ย่อมมีน้ำหนักมากกว่าคลิปสั้นๆ ที่ตัดมาแค่เสี้ยววินาที ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
กล้องหน้า-หลัง จะให้บริบทที่สมบูรณ์กว่ากล้องหน้าอย่างเดียวเยอะมาก
3.ความน่าเชื่อถือของไฟล์ :
วันที่และเวลาในคลิปต้อง "ตรง" กับความเป็นจริง! การตั้งค่าเวลาในกล้องให้ถูกต้องเสมอจึงสำคัญมาก
ไฟล์วิดีโอ ต้องไม่มีร่องรอยการ "ตัดต่อ" หรือ "ดัดแปลง" ที่น่าสงสัย ควรเก็บไฟล์ต้นฉบับจากการ์ดไว้ให้ดีที่สุด
"ใบสั่ง" แบบไหน ที่คลิปช่วยได้เยอะ?
ข้อหา "ฝ่าไฟแดง": ถ้าในคลิปเห็นชัดๆ ว่าตอนที่เราขับผ่านแยก สัญญาณไฟฝั่งเราเป็น "ไฟเขียว" แบบเต็มๆ อันนี้เป็นหลักฐานชั้นดีเลยครับ
ข้อหา "ขับรถประมาท / เปลี่ยนเลนกะทันหัน": มีประโยชน์มากถ้าคลิปแสดงให้เห็นว่า มีรถคันอื่นขับปาดหน้า หรือเบรกกะทันหัน จนทำให้เราต้องหักหลบหรือเกิดอุบัติเหตุ
อุบัติเหตุที่ "เถียงกันไม่จบ": เช่น กรณีชนท้าย ที่คู่กรณีอ้างว่าเราเบรกกะทันหันไม่มีเหตุผล แต่กล้องหน้าอาจจะจับภาพได้ว่ามีรถหรือคนตัดหน้าเราจริงๆ
ข้อหาที่ไม่ชัดเจน: เช่น ขับรถกีดขวางการจราจร คลิปจะช่วยแสดงบริบททั้งหมดว่า ณ เวลานั้นการจราจรเป็นอย่างไร และเราจำเป็นต้องทำแบบนั้นจริงๆ หรือไม่
"ใบสั่ง" แบบไหน ที่คลิปอาจช่วย "ไม่ค่อยได้"?
ข้อหา "ขับรถเร็วเกินกำหนด": อันนี้ยากมาก! เพราะการวัดความเร็วของตำรวจใช้ "เรดาร์กัน" หรือ "เลเซอร์กัน" ซึ่งมีความแม่นยำสูงและได้รับการรับรองตามกฎหมาย ส่วนความเร็วที่โชว์บนกล้อง (จาก GPS) อาจมีค่าความคลาดเคลื่อนและ โดยทั่วไปศาลมักจะไม่รับฟังเป็นหลักฐานหักล้างความเร็วจากเครื่องมือของตำรวจ (ยกเว้นกรณีที่คลิปแสดงให้เห็นชัดเจนว่าตำรวจเล็งผิดคัน หรือมีข้อผิดพลาดร้ายแรงในการปฏิบัติงาน)
ข้อหาที่ชัดเจนในตัวเอง: เช่น จอดในที่ห้ามจอด, ไม่คาดเข็มขัด, ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ถ้าในคลิปมันฟ้องว่าเราทำผิดเอง...อันนี้ก็จบข่าวเลยครับ
"จะโต้แย้งใบสั่ง" ต้องทำยังไง?
ถ้ามั่นใจว่าเราไม่ผิดและคลิปเราชัดเจนพอ:
"อย่าเถียง" ณ จุดเกิดเหตุ: สำคัญมากครับ! รับใบสั่งมาอย่างสุภาพ แล้วค่อยไปดำเนินการต่อตามขั้นตอน การโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ตรงนั้นมักจะไม่เป็นผลดี
ดูรายละเอียดในใบสั่ง: ว่าต้องไปติดต่อ "สถานีตำรวจ (สน.) ไหน" และภายใน "กี่วัน" (ส่วนใหญ่ประมาณ 7-15 วัน)
เตรียมหลักฐานให้พร้อม:
คลิปวิดีโอ: ไฟล์ต้นฉบับจากการ์ด (MicroSD Card) หรือสำรองไฟล์ใส่ USB Drive/มือถือให้เรียบร้อย (เตรียมทั้งไฟล์เต็มและไฟล์ช่วงที่เกิดเหตุ)
ใบสั่ง (ฉบับจริง)
เอกสารของเรา: ใบขับขี่, บัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนรถ
ไปที่สถานีตำรวจที่ระบุ: เข้าไปแจ้งความประสงค์ว่า "ขอโต้แย้งข้อกล่าวหาตามใบสั่ง" กับร้อยเวร หรือ "สารวัตรจราจร"
ยื่นหลักฐานและชี้แจง: ให้เจ้าหน้าที่ดูคลิปวิดีโอและชี้แจงเหตุผลของเราอย่างสุภาพ
รอผลการพิจารณา: เจ้าหน้าที่จะพิจารณาจากหลักฐาน หากเห็นว่าเราไม่ได้กระทำผิดจริง ก็อาจจะทำการ "ยกเลิกใบสั่ง" หรือเปรียบเทียบปรับในข้อหาที่เบาลง (แล้วแต่กรณี) แต่ถ้าเขายืนยันตามข้อหาเดิม เราก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธและสู้คดีในชั้นศาลต่อไป (ซึ่งสำหรับใบสั่งจราจรทั่วไป คนส่วนใหญ่มักจะไม่ทำเพราะไม่คุ้มกับเวลาและค่าใช้จ่าย)
คำแนะนำจากใจ
ชั่งน้ำหนักให้ดี: ระหว่าง "ค่าปรับ" กับ "เวลาและความยุ่งยาก" ในการเดินทางไปสถานีตำรวจเพื่อโต้แย้ง
ถ้าหลักฐาน "ชัดเจน" จริงๆ ว่าเราไม่ผิด 100%: เช่น ไม่ได้ฝ่าไฟแดงแน่นอน การไปโต้แย้งก็ "คุ้มค่า" ที่จะทำเพื่อรักษาสิทธิ์ของเราครับ
ถ้าหลักฐาน "ก้ำกึ่ง" หรือ "ไม่ชัดเจนพอ": การยอมจ่ายค่าปรับอาจจะประหยัดเวลาและจบเรื่องได้ง่ายกว่า
บทสรุป: คลิปคือ "เครื่องมือต่อรอง" ชั้นดี แต่การขับขี่ปลอดภัยคือ "เกราะป้องกัน" ที่ดีที่สุด!
สรุปง่ายๆ เลยนะครับเพื่อนๆ: คลิปจากกล้องติดรถยนต์ "สามารถ" ใช้เป็นหลักฐานเพื่อโต้แย้งใบสั่งได้! แต่มันจะ "สำเร็จ" หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ "คุณภาพและความชัดเจน" ของคลิปเป็นสำคัญ
มันคือ "เครื่องมือ" ทรงพลังที่ช่วยปกป้องเราจากความไม่เป็นธรรมบนท้องถนน แต่ก็ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะแก้ได้ทุกปัญหา สุดท้ายแล้ว การขับรถอย่างมีสติ เคารพกฎจราจร คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เราไม่ต้องหยิบยื่นหลักฐานชิ้นนี้ให้ใครดูเลยครับ ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัยนะครับ!