AAC, aptX, LDAC ภาษาเสียง ที่ต้องรู้ ถ้าอยากได้หูฟังบลูทูธเสียงดี!
ซื้อหูฟังบลูทูธมาใหม่แกะกล่อง ราคาไม่ใช่ถูกๆ แต่ทำไมพอฟังเพลงแล้วเสียงมันดู "แบนๆ" "ไม่ใส" หรือ "รายละเอียดหาย" ไปเยอะเลยล่ะ? ทั้งที่หูฟังก็ยี่ห้อดัง สเปกก็ดูดี! เพื่อนๆ หลายคนอาจจะเคยเจอปัญหาแบบนี้ แล้วก็โทษว่าหูฟังไม่ดีบ้างล่ะ เพลงไม่เพราะบ้างล่ะ
แต่เดี๋ยวก่อน! บางทีปัญหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่ตัวหูฟังอย่างเดียว แต่อยู่ที่ "ภาษา" ที่มือถือของเราใช้ "คุย" กับหูฟังต่างหาก! ในโลกของ Bluetooth มันมีสิ่งที่เรียกว่า "Audio Codec" ซึ่งเปรียบเสมือน "ล่ามแปลภาษาเสียง" ระหว่างอุปกรณ์ส่ง (มือถือ/คอมฯ) กับอุปกรณ์รับ (หูฟัง/ลำโพง)
ในฐานะ คนที่คลุกคลีกับเรื่องเทคโนโลยีเสียงไร้สายมานาน วันนี้เราจะมาไขความลับของ Codec ยอดฮิตอย่าง AAC, aptX, และ LDAC แบบง่ายที่สุด! ให้เพื่อนๆ เข้าใจว่ามันคืออะไร? ต่างกันยังไง? แล้วถ้าอยากได้หูฟังบลูทูธที่เสียง "ดีจริง" ต้องดูเรื่องนี้ยังไง? รับรองว่าอ่านจบแล้ว คุณจะเลือกหูฟังได้ "เป๊ะ" ขึ้นเยอะ!
Audio Codec คืออะไร? ทำไมมันสำคัญกับ "เสียงดี"?
คิดภาพง่ายๆ นะครับ:
ไฟล์เพลงต้นฉบับ: เหมือน "หนังสือเล่มหนา" ที่มีข้อมูลเสียงครบถ้วนสมบูรณ์
ส่งผ่าน Bluetooth: การส่ง "หนังสือเล่มหนา" ทั้งเล่มผ่านท่อเล็กๆ (Bluetooth) มันทำไม่ได้ หรือทำได้ก็ช้ามาก
Audio Codec (ล่ามแปลภาษา): เลยต้องมี "ล่าม" มาช่วย "บีบอัด" ข้อมูลในหนังสือให้เล็กลงพอที่จะส่งผ่านท่อได้สะดวก แล้วพอไปถึงปลายทาง (หูฟัง) ก็ "คลายการบีบอัด" กลับมาเป็นเสียงให้เราฟัง
ความเก่งของล่าม:
- ล่ามเก่ง (Codec ดี): บีบอัดเก่ง ข้อมูลหายไปน้อยมาก พอคลายกลับมา เสียงก็ยังคงคุณภาพดีใกล้เคียงต้นฉบับ
- ล่ามไม่เก่ง (Codec พื้นฐาน): บีบอัดเยอะ ข้อมูลสำคัญหายไปเยอะ พอคลายกลับมา เสียงก็อาจจะ "แบน" "ไม่ใส" รายละเอียดหาย
Codec พื้นฐานที่ทุกคนมี: SBC (Subband Coding)
SBC คือ "ภาษาอังกฤษพื้นฐาน" ที่อุปกรณ์ Bluetooth ทุกตัวบนโลกนี้ต้อง "พูดได้" เพื่อให้มันคุยกันรู้เรื่อง
คุณภาพเสียง: ก็แค่ "พอฟังได้" ครับ ไม่ได้ดีเด่อะไรมาก รายละเอียดเสียงอาจจะหายไปพอสมควร ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสเรื่องเสียงมาก หรือใช้ฟัง Podcast พูดคุยทั่วไป SBC ก็อาจจะเพียงพอ
แต่! ถ้าคุณเป็นคน "หูทอง" หรืออยากได้ประสบการณ์ฟังเพลงที่ดีกว่านี้ SBC อย่างเดียว "ไม่พอ" แน่นอน!
มาทำความรู้จัก "ล่ามเทพ" ที่ทำให้เสียงดีขึ้น: AAC, aptX, LDAC
นี่คือ Codec คุณภาพสูงที่ได้รับความนิยม และเป็นตัวชี้วัดว่าหูฟังบลูทูธตัวนั้นจะให้เสียงที่ดีได้แค่ไหน:
1.AAC (Advanced Audio Coding) เพื่อนซี้ชาว Apple เป็น Codec มาตรฐานหลักที่อุปกรณ์ Apple ทุกชนิดใช้ (iPhone, iPad, Mac, AirPods, Beats) และก็มีในมือถือ Android บางรุ่น/หลายรุ่นด้วยเช่นกัน
คุณภาพเสียง: ให้คุณภาพเสียง ดีกว่า SBC อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อใช้กับอุปกรณ์ Apple เพราะมันถูกปรับแต่งมาให้ทำงานร่วมกันได้ดีเยี่ยม ให้เสียงที่ใส เคลียร์ และมีรายละเอียดดี
บิตเรต (Bitrate - ปริมาณข้อมูลต่อวินาที): ประมาณ 250-320 kbps (ยิ่งเยอะ ยิ่งดี)
สรุปง่ายๆ: ถ้าคุณใช้ iPhone, iPad หรือ Mac การเลือกหูฟังที่ "รองรับ AAC" คือสิ่ง "จำเป็น" ที่สุด! ถึงหูฟังนั้นจะมี Codec เทพกว่านี้ แต่ถ้ามันไม่รองรับ AAC เวลาต่อกับ iPhone มันก็จะถอยกลับไปใช้ SBC พื้นฐานอยู่ดี ทำให้คุณไม่ได้เสียงที่ดีที่สุดจากหูฟังนั้นๆ
2.aptX (และผองเพื่อน: aptX HD, aptX Adaptive, aptX Lossless) - "ขวัญใจชาว Android (บางค่าย)
ใครใช้?: พัฒนาโดย Qualcomm เป็น Codec ที่ นิยมมากในฝั่ง Android โดยเฉพาะมือถือที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon (แต่! ไม่ใช่ Android ทุกเครื่องจะรองรับนะ ต้องเช็คสเปกดีๆ)
คุณภาพเสียง:
aptX (ธรรมดา): ให้คุณภาพเสียง ดีใกล้เคียง CD (ประมาณ 352 kbps) ดีกว่า SBC และอาจจะให้รายละเอียดบางอย่างได้ดีกว่า AAC ในบางสถานการณ์ (แต่สำหรับ iPhone ยังไง AAC ก็ดีกว่าเพราะเป็น Native)
aptX HD: อัปเกรดขึ้นไปอีก! รองรับเสียงความละเอียดสูง (24-bit/48kHz, ประมาณ 576 kbps) ให้รายละเอียดเสียงที่ดีขึ้นไปอีก
aptX Adaptive: ฉลาด! สามารถปรับคุณภาพเสียงและลดดีเลย์ (Latency) ได้เองตามสภาพแวดล้อมการใช้งาน เหมาะกับการดูหนัง เล่นเกม
aptX Lossless: ใหม่ล่าสุด! อ้างว่าให้คุณภาพเสียงระดับ Lossless เหมือนฟังจาก CD แท้ๆ (แต่ยังใหม่มาก อุปกรณ์รองรับยังน้อย)
สรุปง่ายๆ: ถ้าคุณใช้มือถือ Android ที่รองรับ aptX (โดยเฉพาะ HD หรือ Adaptive) การเลือกหูฟังที่รองรับ aptX ด้วย จะช่วยให้คุณได้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม แต่ถ้ามือถือคุณไม่รองรับ aptX หูฟังนั้นก็จะถอยไปใช้ SBC หรือ AAC (ถ้ามี) แทน
3. LDAC - "ตัวเทพจาก Sony" (เพื่อชาว Hi-Res Audio)
ใครใช้?: พัฒนาโดย Sony และปัจจุบัน Android หลายๆ รุ่นก็รองรับ LDAC ด้วย (ต้องเช็คสเปกเครื่อง) เป็น Codec ที่เน้น คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio ผ่าน Bluetooth
คุณภาพเสียง: ดีที่สุดในบรรดา Codec ยอดนิยม! สามารถส่งข้อมูลได้สูงถึง 990 kbps! ทำให้ได้ยินรายละเอียดเสียงที่ครบถ้วน มิติเสียงกว้าง เบสลงลึก แหลมใสเป็นประกาย เหมือนฟังจากไฟล์เพลงคุณภาพสูงโดยตรง
ข้อสังเกต:
กินแบตฯ เยอะกว่า: ทั้งมือถือและหูฟัง เพราะต้องประมวลผลหนัก
สัญญาณอาจจะไม่นิ่งเท่า: ในที่ที่มีสัญญาณรบกวนเยอะๆ เพราะใช้แบนด์วิดท์สูง
ต้องมี "ครบชุด": ไฟล์เพลงต้องคุณภาพสูง (Hi-Res) + มือถือรองรับ LDAC + หูฟังรองรับ LDAC ถึงจะได้ยินความแตกต่างชัดเจน
สรุปง่ายๆ: ถ้าคุณเป็น "หูทอง" จริงจัง ชอบฟังเพลงไฟล์ Hi-Res และมีอุปกรณ์ที่รองรับ LDAC ทั้งชุด การเลือกหูฟัง LDAC จะมอบประสบการณ์เสียงที่ดีที่สุดให้คุณได้ แต่ถ้าฟังเพลงทั่วไปจาก Streaming App การมี LDAC อาจจะไม่เห็นความแตกต่างชัดเจนเท่า AAC หรือ aptX HD
"แล้วฉันจะรู้ได้ยังไง ว่าหูฟังฉันกำลังใช้ Codec อะไรอยู่?"
iPhone: ง่ายมาก! ถ้าหูฟังรองรับ AAC มันจะใช้ AAC โดยอัตโนมัติ (เช็คในเมนู Bluetooth อาจจะไม่บอกชัดเจน แต่ถ้าหูฟังนั้นระบุว่ารองรับ AAC ก็คือใช้ AAC)
Android: ส่วนใหญ่จะ เลือก Codec ที่ดีที่สุดที่ทั้งมือถือและหูฟังรองรับให้โดยอัตโนมัติ แต่! คุณสามารถเข้าไป "บังคับ" เลือก หรือ "ตรวจสอบ" Codec ที่กำลังใช้งานได้ใน "Developer Options" (โหมดนักพัฒนา) ของมือถือ Android (วิธีเปิด Developer Options ลองค้นหาตามรุ่นมือถือของคุณดูนะครับ) ในนั้นจะมีเมนู "Bluetooth Audio Codec" ให้ดูและเลือกได้
เลือกยังไงให้ "ใช่" กับเรา? (Quick Guide)
ใช้ iPhone/iPad/Mac เป็นหลัก? -> มองหาหูฟังที่ "รองรับ AAC" เป็นอันดับแรก!
ใช้ Android (ที่รองรับ aptX)? -> มองหาหูฟังที่ "รองรับ aptX / aptX HD / aptX Adaptive" จะได้เสียงดีเต็มประสิทธิภาพ
หูทอง ชอบ Hi-Res และมีอุปกรณ์ครบชุด (Android)? -> มองหาหูฟังที่ "รองรับ LDAC"
️ ไม่ซีเรียสมาก ฟังทั่วไป? -> หูฟังที่รองรับ AAC หรือ aptX ก็ให้เสียงที่ดีกว่า SBC เยอะแล้วครับ
สำคัญที่สุด: มือถือของเรา กับ หูฟังของเรา ต้อง "พูดภาษาเดียวกัน" (รองรับ Codec เดียวกัน) ถึงจะได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด!
บทสรุป: "ภาษาเสียง" เรื่องเล็กๆ ที่สร้างความแตกต่างยิ่งใหญ่!
การทำความเข้าใจเรื่อง Audio Codec อย่าง AAC, aptX, LDAC อาจจะดูเป็นเรื่องเทคนิคไปสักหน่อย แต่ มันคือ "กุญแจสำคัญ" ที่จะช่วยให้คุณเลือกหูฟังบลูทูธที่ให้ "เสียงดี" ได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เชื่อตามโฆษณา หรือเลือกที่ดีไซน์สวยอย่างเดียว
ครั้งต่อไปที่เพื่อนๆ จะซื้อหูฟังบลูทูธ ลองพลิกดูสเปก มองหา "ภาษาเสียง" เหล่านี้ดูนะครับ แล้วคุณจะพบว่า การใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ มันช่วยให้ประสบการณ์การฟังเพลงของคุณ "ฟิน" ขึ้นได้อีกเยอะเลย!