การฟังเพลงเป็นประจำ ช่วยอะไรได้บ้าง
อัพเดทล่าสุด: 19 เม.ย. 2025
ไม่ว่าคุณจะกำลังเดินทางไปทำงาน กำลังออกกำลังกายอย่างมุ่งมั่น หรือแค่นั่งพักผ่อนสบายๆ อยู่ที่บ้าน เชื่อว่า "เสียงเพลง" คือเพื่อนร่วมทางที่ขาดไม่ได้สำหรับใครหลายคน ดนตรีเป็นภาษาสากลที่เชื่อมโยงผู้คนและเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การฟังเพลงเป็นประจำ ไม่ใช่แค่เรื่องของความเพลิดเพลิน แต่ยังมอบประโยชน์มากมายต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของเราอย่างคาดไม่ถึง
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ "พลัง" ที่ซ่อนอยู่ในเสียงเพลง จาก ประสบการณ์ที่เราต่างคุ้นเคย ผสานกับ ความรู้ความเข้าใจ ถึงผลกระทบของดนตรีต่อร่างกายและจิตใจ เพื่อให้เห็นว่าทำไมการเปิดใจรับฟังเสียงเพลงในชีวิตประจำวันจึงเป็นเรื่องที่ดีและ น่าเชื่อถือ อย่างแท้จริง
- ปรับอารมณ์ คลายเครียด ลดความวิตกกังวล
ดนตรีคือยาวิเศษสำหรับอารมณ์: เคยไหมครับที่ รู้สึกเหนื่อยล้า ท้อแท้ พอได้ฟังเพลงโปรดจังหวะสนุกๆ แล้วรู้สึกมีพลังใจขึ้นมา? หรือเวลาเครียดๆ การเปิดเพลงบรรเลงฟังสบายๆ ก็ช่วยให้ใจสงบลงได้ นั่นเพราะดนตรีมีผลโดยตรงต่อสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ สามารถกระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุขอย่าง โดพามีน (Dopamine) และช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดอย่าง คอร์ติซอล (Cortisol) ได้
ระบายความรู้สึก: บางครั้งเพลงเศร้าก็ไม่ได้ทำให้เราเศร้าลง แต่กลับช่วยให้เราได้ "เชื่อมต่อ" และ "ปลดปล่อย" ความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ข้างในออกมา ทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ในที่สุด - เพิ่มสมาธิและการจดจ่อ
เพื่อนคู่คิดตอนทำงาน/อ่านหนังสือ: หลายคนพบว่า การเปิดเพลงคลอเบาๆ โดยเฉพาะ ดนตรีที่ไม่มีเนื้อร้อง หรือมีจังหวะสม่ำเสมอ เช่น เพลงคลาสสิก, เพลงบรรเลง (Instrumental), Lo-fi Hiphop หรือ Ambient Music สามารถช่วย "กลบ" เสียงรบกวนรอบข้าง และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการใช้สมาธิได้ มันช่วยให้สมองจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าได้ดีขึ้น
(ข้อควรรู้): แม้จะมีแนวคิดเรื่อง "Mozart Effect" แต่ ผลการวิจัยยังไม่ชัดเจน ว่าเพลงคลาสสิกทำให้ฉลาดขึ้นโดยตรง แต่การที่มันช่วยเรื่องสมาธิ อาจส่งผลดีต่อการเรียนรู้ได้ และที่สำคัญคือ ต้องเลือกเพลงที่ "ใช่" สำหรับคุณ บางคนอาจรู้สึกว่าเพลงทำให้เสียสมาธิก็ได้ - . กระตุ้นพลังใจ ออกกำลังกายสนุกและอึดขึ้น!
จังหวะสร้างพลัง: สังเกตไหมครับว่าเวลาออกกำลังกายแล้วมีเพลงจังหวะมันส์ๆ เราจะรู้สึกฮึดสู้และเหนื่อยน้อยลง? นั่นเพราะจังหวะดนตรี (Tempo) ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของร่างกาย ทำให้เราออกแรงได้มากขึ้น และเบี่ยงเบนความสนใจจากความเหนื่อยล้าหรือความเบื่อหน่ายได้ การเลือก Playlist ที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายแต่ละประเภทจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมาก - ช่วยเรื่องความจำและการเรียนรู้
เสียงเพลงปลุกความหลัง: เพลงบางเพลงสามารถพาเราย้อนกลับไปยังความทรงจำเก่าๆ ได้อย่างน่าทึ่ง นั่นเพราะสมองส่วนที่ประมวลผลดนตรีและส่วนความจำทำงานเชื่อมโยงกัน
เรียนรู้ผ่านบทเพลง: การใช้เพลงช่วยในการจดจำ เช่น เพลง ABC หรือการแต่งเพลงเพื่อจำเนื้อหาต่างๆ เป็นเทคนิคการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
กระตุ้นสมอง: การฟังดนตรี (โดยเฉพาะดนตรีที่ซับซ้อนขึ้น) อาจช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาได้ - บรรเทาความเจ็บปวดและช่วยให้ผ่อนคลาย
ดนตรีบำบัด: มีการใช้ดนตรีบำบัด (Music Therapy) เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดทั้งทางกายและทางใจในทางการแพทย์ ดนตรีช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวด และกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphins) ซึ่งเป็นสารแก้ปวดตามธรรมชาติของร่างกาย
กล่อมเกลานอนหลับ: การฟังเพลงบรรเลงช้าๆ หรือเสียงธรรมชาติ (Nature Sounds) ก่อนนอน สามารถช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล และนำไปสู่การนอนหลับที่ดีขึ้นได้ - เชื่อมสัมพันธ์ สร้างสังคม
ภาษาสากล: ดนตรีทำลายกำแพงทางภาษาและวัฒนธรรม เราสามารถรู้สึกสนุก หรือซาบซึ้งไปกับดนตรีได้ แม้จะไม่เข้าใจเนื้อร้องก็ตาม
ประสบการณ์ร่วม: การไปดูคอนเสิร์ต, การร้องเพลงร่วมกัน, หรือแม้แต่การแชร์เพลงโปรดให้เพื่อนฟัง ล้วนเป็นการสร้างความผูกพันและประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน - จุดประกายความคิดสร้างสรรค์
เปิดโลกทัศน์ทางความคิด: การฟังดนตรีแนวใหม่ๆ หรือเพลงบรรเลงที่ไม่มีโครงสร้างตายตัว สามารถกระตุ้นให้สมองคิดนอกกรอบ และเกิดไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ ได้
ข้อควรระวังเล็กน้อย
แม้ดนตรีจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังเล็กน้อยครับ:
ระดับเสียง: การฟังเพลงที่ดังเกินไป โดยเฉพาะผ่านหูฟัง เป็นเวลานาน เป็นอันตรายต่อการได้ยินอย่างถาวร! ควรเปิดเสียงในระดับที่พอดี และพักหูเป็นระยะๆ
การรบกวนสมาธิ: สำหรับงานที่ต้องการสมาธิขั้นสูงมากๆ หรือการเรียนรู้ที่ซับซ้อน การฟังเพลง (โดยเฉพาะเพลงที่มีเนื้อร้อง หรือจังหวะซับซ้อน) อาจกลายเป็นการรบกวนสมาธิได้ ต้องเลือกประเภทเพลงและสถานการณ์ให้เหมาะสม
เพลงที่ "ใช่": ประโยชน์ต่างๆ จะเกิดขึ้นได้ดีที่สุดเมื่อคุณฟังเพลงที่คุณ "ชอบ" และ "รู้สึกดี" ด้วย เพลงที่คนอื่นบอกว่าดี อาจไม่ใช่สำหรับคุณก็ได้
บทสรุป: เติมพลังให้ชีวิต ด้วยเสียงเพลงในทุกๆ วัน
ดนตรีเป็นมากกว่าความบันเทิง มันคือเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยเยียวยาจิตใจ กระตุ้นร่างกาย และเสริมสร้างสมองได้อย่างน่าทึ่ง การสละเวลาเพียงเล็กน้อยในแต่ละวันเพื่อ "ฟังเพลง" ที่คุณชอบอย่างตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างเดินทาง, ทำงานบ้าน, ออกกำลังกาย, หรือก่อนนอน ล้วนเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดีในระยะยาว
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง